
ปัญหาเส้นผมและหนังศีรษะ มีผลต่อความมั่นใจและบุคลิกภาพ
โรคของเส้นผมและหนังศีรษะ ได้แก่ โรคผมบางทางพันธุกรรม โรคผมร่วงภายหลังความเครียด โรคผมร่วงหย่อม โรคหนังศีรษะอักเสบและรังแค
“โรคผมบางทางพันธุกรรม” เป็นโรคผมบางที่พบได้บ่อยทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย ในผู้หญิงจะมีผมบางทั่วศีรษะ โดยจะพบมากบริเวณกลางหนังศีรษะและแนวผมด้านหน้า อาการที่เริ่มเป็นจะพบได้ตั้งแต่อายุ 20 ปี และอาจเริ่มเป็นเมื่ออายุได้ 50-60 ปี สําหรับผู้ชายมักจะมีผมบางเริ่มต้นที่ขมับสองข้างและกลางหนังศีรษะ ซึ่งอายุที่เริ่มเป็นสามารถพบได้เช่นเดียวกันกับในผู้หญิง ผู้ป่วยส่วนมากจะมีประวัติคนในครอบครัวที่เป็นผมบาง อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้ป่วยจํานวนหนึ่งที่ไม่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคผมบาง แต่จะพบว่าเส้นผมของผู้ที่เป็นจะมีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ ตามวงจรของเส้นผม จนในที่สุดจะกลายเป็นหนังศีรษะที่ไม่มีเส้นผมหรือศีรษะล้าน สําหรับอัตราและความรุนแรงของผมบางไม่สามารถคาดเดาได้ แต่ความรุนแรงจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามอายุที่มากขึ้น
โรคผมบางอีกชนิดที่พบได้บ่อย ได้แก่ โรคผมร่วงภายหลังความเครียด คําว่า “ความเครียด” ไม่ได้หมายถึงเครียดทางจิตใจอย่างเดียว แต่รวมไปถึงความเครียดทางร่างกายและการเจ็บป่วยด้วย เช่น การเป็นไข้สูง การผ่าตัดการคลอดบุตร การอดอาหารมากๆ เพื่อลดน้ำหนัก โรคทางร่างกายบางชนิด เช่น โรคโลหิตจาง โรคของต่อมไทรอยด์ และการได้รับยาบางชนิด ปัจจัยเหล่านี้จะทําให้วงจรเส้นผมเปลี่ยนแปลงไป ทําให้ผมผลัดออกจากหนังศีรษะมากขึ้น ลักษณะผมบางจะเป็นผมบางแบบทั่วศีรษะ ภาวะนี้สามารถหายได้เองใน 6 เดือนภายหลังจากสาเหตุได้ถูกแก้ไขหรือกําจัดออกไป
โรคผมร่วงอีกชนิดหนึ่งที่ไม่ได้พบบ่อยนักแต่มีความสําคัญ ได้แก่ โรคผมร่วงหย่อม หรือผมร่วงเป็นกระจุก เป็นโรคที่เกิดจากความแปรปรวนของภูมิคุ้มกันในร่างกาย ร่างกายเกิดมีภูมิคุ้มกันไปทําลายรากผมตัวเอง จึงกดและหยุดการเจริญของผม ทําให้ผมร่วง ลักษณะของหนังศีรษะที่ผมร่วงจะไม่มีการอักเสบ เป็นวงๆ เริ่มจากวงขนาดเล็กกว่า 1 เซนติเมตรไปจนถึงขนาดหลายเซนติเมตร หากมีหลายวง และแต่ละวงขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ อาจทําให้ศีรษะล้านได้เมื่อเป็นมาก อาจมีขนคิ้ว ขนตา หรือหนวดเคราร่วงด้วยได้ ผมร่วงชนิดนี้พบได้ทุกเพศทุกวัย โรคผมร่วงหย่อมไม่ได้เป็นอาการของโรคร้ายแรงอะไร สามารถพบได้ในผู้ที่มีสุขภาพดีทั่วๆ ไป แต่อาจมีความเสี่ยงของโรคเหล่านี้สูงกว่าคนทั่วไป ได้แก่ โรคภูมิแพ้ผิวหนัง หอบหืด และโรคที่เกี่ยวกับภาวะภูมิคุ้มกันแปรปรวนอื่นๆ เช่น โรคไทรอยด์ โรคด่างขาว และโรคเอสแอลอี
ประมาณร้อยละ 90 ของผู้ที่มีผมร่วงหย่อมสามารถรักษาให้หายได้ ส่วนที่เหลือพบว่าผมไม่ขึ้นใหม่อีกเลย ในบางรายอาจพบได้ว่าผมที่ขึ้นใหม่กลับร่วงได้อีก ระยะเวลาที่เกิดผมร่วงนี้แตกต่างกันในแต่ละบุคคล ไม่สามารถพยากรณ์ได้อย่างแม่นยําว่าผมจะขึ้นใหม่หรือจะร่วงไปเมื่อใด ในบางคนอาจเป็นครั้งเดียวหรือในบางคนอาจมีอาการผมร่วงและขึ้นใหม่เป็นๆ หายๆ ได้ ผมที่ร่วงสามารถขึ้นใหม่จนเป็นปกติได้ แม้ในผู้ที่มีอาการร่วงทั้งหนังศีรษะ หรือร่วงทั้งผมและขนร่วมกัน ผมที่ขึ้นใหม่บางครั้งอาจมีสีขาวและเปราะบาง แต่จะกลับมีสีและสภาพเดิมได้ในเวลาต่อมา
โรคของหนังศีรษะอีกโรคที่พบได้บ่อยได้แก่ โรคคันหนังศีรษะและรังแค คําว่ารังแคคือสะเก็ดสีขาวบนหนังศีรษะเกิดจากเซลล์ชั้นบนสุดของหนังศีรษะลอกตัวหลุดออก ตามปกติแล้วเซลล์หนังศีรษะของคนเรา ซึ่งเกิดใหม่จะค่อยๆ เลื่อนจากใต้ผิวหนังขึ้นมาจนถึงผิวชั้นบนสุด และหลุดออกไปในเวลาประมาณ 28 วัน โดยเซลล์ที่หลุดออกจะเป็นชิ้นเล็กๆ ที่ตาเปล่ามองไม่เห็นแต่ถ้ามีสาเหตุใดก็ตามที่ทําให้วงจรนี้ถูกเร่งให้เร็วขึ้น เช่น จาก 28 วัน เหลือแค่ 7-21 วัน โดยเซลล์ที่หลุดออกแทนที่จะเป็นชิ้นเล็ก กลับมีขนาดใหญ่ขึ้นเป็นขุยสีขาวหรือเทา และมองเห็นได้ชัด แถมมีอาการคันศีรษะร่วมด้วย แสดงว่ามีรังแคเกิดขึ้น
รังแคเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยมาก ถือได้ว่ารังแคเป็นโรคของหนังศีรษะชนิดเรื้อรังที่มีลักษณะเฉพาะตัว บางคนอาจมีรังแคมาก บางคนอาจมีรังแคน้อย หรือไม่มีเลยก็ได้ หนังศีรษะที่มีรังแคจะคันและมีกลิ่นเหม็น รังแคเกิดขึ้นได้ในทุกเพศทุกวัย รังแคมีทั้งชนิดผมมันและชนิดผมแห้ง อาจตรวจสอบได้ง่ายๆ ด้วยการก้มศีรษะลง วางกระดาษดําหรือผ้าสีเข้มๆ ไว้ตรงหน้า แล้วหวีเอาฝุ่นผงต่างๆ จากเส้นผมออก ดูว่าฝุ่นผงที่หลุดมาจากเส้นผมมีลักษณะอย่างไร ถ้าเป็นผงเล็กๆเหมือนแป้ง แสดงว่าเป็นปัญหารังแคผมแห้ง แต่ถ้าฝุ่นผงที่หลุดออกมามีลักษณะชิ้นใหญ่ เป็นก้อนและชื้น แสดงว่าเป็นปัญหารังแคผมมัน
รังแคเกิดจากหลายสาเหตุ อาจเกิดจากโรคของหนังศีรษะบางชนิด เช่น โรคสะเก็ดเงิน โรคเชื้อราบนหนังศีรษะ การสระผมด้วยแชมพูที่กระด้างบ่อยเกินไป ภาวะโภชนาการไม่ดี ความเครียด หรือใช้ผลิตภัณฑ์ตกแต่งทรงผมบางชนิด การแพ้สารเคมีหรือน้ำยาบางอย่าง ภาวะนี้สามารถรักษาได้เองเบื้องต้นโดยการใช้ยาสระผมที่มีฤทธิ์ขจัดรังแค และการหลีกเลี่ยงสาเหตุ หากร่างกายอ่อนเพลีย ไม่สบาย มีความเครียด รังแคอาจกําเริบขึ้นมาอีกได้ หากไม่ได้ผลควรพบแพทย์เฉพาะทางผิวหนังเพื่อตรวจหาสาเหตุรวมทั้งโรคของหนังศีรษะบางชนิดที่อาจพบได้
คนปกติจะมีผมร่วง 70-100 เส้นต่อวัน คนที่มีอาการผมร่วงจะร่วงมากกว่า 100 เส้นต่อวัน โดยคนที่มีอาการผมร่วงจะมีความผิดปกติที่วงจรผม โดยเซลล์ผมตายเร็วกว่ากำหนด หรือหนังศีรษะมีการอักเสบ โดยวงจรผมในระยะเจริญเติบโต (Anagen) มีความผิดปกติคือจะสั้นกว่าปกติ เซลล์ตายก่อนกำหนดและหนังศีรษะที่มีการอักเสบอาจส่งผลให้เซลล์ผมใหม่ไม่สามารถเข้าสู่ระยะเจริญเติบโตได้ คนที่มีอาการผมร่วงจะมีปริมาณผมระยะเจริญเติบโตน้อยกว่า 80%

ผมร่วง เกิดจากสาเหตุอะไร
- พันธุกรรม สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของผมร่วง คือ มีประวัติครอบครัวที่มีศีรษะล้าน มีการศึกษาเชื่อว่าสาเหตุทางพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม เช่น ความเครียด และมลภาวะ สามารถเป็นปัจจัยกระตุ้นการเกิดภาวะผมบางได้ โดยมีความสัมพันธ์กับกับฮอร์โมนเพศชายที่ชื่อ แอนโดรเจน เนื่องจากฮอร์โมนนี้เป็นตัวกําหนดวงจรและควบคุมการเติบโตของเส้นผม
- ภาวะเจ็บป่วย การผ่าตัด ความเครียดหรือเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจ อาจส่งผลกระทบให้เกิดภาวะผมร่วงชั่วคราว ซึ่งผมจะเริ่มงอกใหม่โดยไม่ต้องรักษา
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนอาจทำให้ผมร่วงได้ชั่วคราว ได้แก่ การตั้งครรภ์ การคลอดบุตร การเลิกใช้ยาคุมกำเนิด วัยหมดประจำเดือน
- โรคบางชนิดที่อาจทำให้ผมร่วง เช่น โรคต่อมไทรอยด์ การติดเชื้อที่หนังศีรษะ และโรคที่ทำให้เกิดแผลเป็น เช่น ไลเคนพลานัสและโรคลูปัสบางชนิด อาจทำให้ผมร่วงถาวรได้เนื่องจากแผลเป็น
- ผลกระทบจากยาที่ใช้รักษา เช่น โรคมะเร็ง ความดันโลหิตสูง โรคข้ออักเสบ ภาวะซึมเศร้า
- การลดน้ำหนักอย่างมากในระยะเวลาอันสั้น
- มีไข้สูง
- ขาดสารอาหาร เช่น โปรตีน ธาตุเหล็ก และสารอาหารอื่นๆ กรดไขมันจำเป็น วิตามินเอ เหล็ก สังกะสี และสารต้านอนุมูลอิสระ
- เชื้อราบนหนังศีรษะอาจเป็นสาเหตุให้โคนผมบริเวณใกล้ๆ ที่ติดเชื้อหักหรือหลุดร่วงได้
ดังนั้นการที่จะมีผมที่สุขภาพดีนั้น ก็จะต้องได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน ลดภาวะเครียด และการปกป้องจากสารต้านอนุมูลอิสระ ควบคู่กันไป

วิธีแก้ผมร่วง และการดูแลรักษาไม่ให้เกิดผมร่วงหรือผมบางเพิ่มขึ้น
- หลีกเลี่ยงการมัดผมแน่นเกินไป พยายามอย่าดึง บิด หรือขยี้ผมแรงๆ
- ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะอาหารที่มีธาตุเหล็กและโปรตีนในปริมาณที่เพียงพอในแต่ละวัน
- เลือกใช้แชมพูที่เหมาะกับสภาพหนังศีรษะ ควรใช้แชมพูที่ให้ความชุมชื้นต่อเส้นผมและไม่ทำให้หนังศีรษะแห้งเกินไป หลีกเลี่ยงแชมพูที่มีน้ำหอมหรือสารฟอก โดยแชมพูที่ใช้นั้นต้องไม่ก่อให้เกิดการแพ้ การคัน รังแค หรือผื่นบนหนังศีรษะ
- ผลิตภัณฑ์และเครื่องมือจัดแต่งทรงผมก็เป็นสาเหตุของปัญหาผมร่วงเช่นกัน เช่น เครื่องเป่าลม ที่หนีบผมผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผม สารฟอกขาว น้ำยาดัด
- หลีกเลี่ยงความเครียด ทำจิตใจให้ผ่อนคลาย
ดังนั้นการที่จะมีผมที่สุขภาพดีนั้น ก็จะต้องได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน ลดภาวะเครียด และการปกป้องจากสารต้านอนุมูลอิสระ ควบคู่กันไป

V Hair Care Hair Tonic (Plus by Heart formula)
ผ่านการค้นคว้าวิจัยและทดลองสูตรจากผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผมนานกว่า 3 ปี เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับหนังศีรษะและเส้นผม ได้รับการรับรองแล้วว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน ปลอดภัย และปราศจากสารเคมี
ส่วนประกอบสำคัญ (Active ingredients)
Hydrogenated Castor Oil น้ำมันละหุ่ง ช่วยบำรุงเส้นผม เพิ่มความยืดหยุ่นและลดการขาดหลุดร่วงของเส้นผม ช่วยเร่งผมยาวและรักษาอาการผมร่วง ช่วยให้หนังศีรษะแข็งแรง ลดการเกิดรังแค แก้ปัญหาหนังศีรษะแห้ง และอาจรักษาอาการของโรคเซบเดิร์มได้
Panthenol วิตามิน B5 ซึมซาบได้ล้ำลึก ช่วยเคลือบบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ ให้มีความชุ่มชื้น นุ่มลื่น พร้อมฟื้นบำรุงผมแห้งเสียแตกปลาย ช่วยรักษาสมดุลให้ความชุ่มชื้นกับหนังศีรษะและเส้นผม
Citrus Hystrix Peel Extract สารสกัดจากมะกรูด ช่วยถนอมบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ ทำให้ผมนุ่มสลวยดกดำ เงางาม ชะลอผมขาว และ ช่วยให้รากผมและเส้นผมแข็งแรง ลดการหลุดร่วงของเส้นผม
Menthol ช่วยให้หนังศีรษะเย็นสบาย ลดอาการคันหนังศีรษะ พร้อมให้กลิ่นหอมสดชื่น
Panax Ginseng Root Extract สารสกัดจากรากโสมช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตของเซลล์บริเวณหนังศีรษะ ทำให้รากผมได้รับสารอาหาร เร่งการงอกของเส้นผม ทำให้รากผมแข็งแรง ลดการร่วงของเส้นผม กระตุ้นผมงอกใหม่
Piroctone Olamine ช่วยลดการสะสมของเชื้อราบนหนังศีรษะที่อาจเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดรังแคและอาการคันศีรษะ
Tocopheryl Acetate วิตามิน E ช่วยฟื้นฟูให้หนังศีรษะแข็งแรงและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับหนังศีรษะ
Allantoin สารสกัดจากรากและใบของพืช Comfrey มีคุณสมบัติปลอบประโลมหนังศีรษะอย่างอ่อนโยน เพิ่มความชุ่มชื้น ลดการระคายเคือง
Citric Acid สารกลุ่ม BHA ช่วยเสริมประสิทธิภาพการผลัดเซลล์ผิว มีคุณสมบัติ ช่วยขจัดรังแค และดีท็อกซ์หนังศีรษะ
Aloe Barbadensis Leaf Juice
สารสกัดว่านหางจระเข้ ช่วยดีท็อกซ์หนังศีรษะ และลดปริมาณเชื้อราบนหนังศีรษะ อุดมไปด้วยวิตามิน A, C,E,B1,B2 ,B3 ,B6,89, B12 ช่วยให้หนังศีรษะชุ่มชื้น ไม่แห้ง ช่วยขจัดรังแค และช่วยรักษาอาการแพ้ มีสาร Aloctin A ยับยั้งการอักเสบของผิวหนัง แผล หรือโรคผิวหนังบนหนังศีรษะได้
Acetyl Hxapeptide-1 เปปไทด์ ที่มีประสิทธิภาพในการซึมผ่านสู่ผิวหนังศีรษะได้ดี ช่วยชะลอผมหงอกก่อนวัยอันควร

V Hair Care Hair Tonic
ขจัดรังแค ลดอาการคันศีรษะ บำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ ด้วยสารอาหารจากธรรมชาติ
ปกป้องหนังศีรษะและเส้นผมจากทำ สี ยืด ดัด ช่วยให้ผมแข็งแรง detox สารเคมีตกค้าง
ลดผมร่วง ผมบาง ช่วยกระตุ้นหนังศีรษะ และ รากผมให้เซลล์ผมแข็งแรง
ชะลอผมหงอกก่อนวัยอันควร
ให้บุคลิกของคุณ กลับมามั่นใจดังเดิม
วิธีใช้
ฉีด V Hair Care Hair Tonic ลงบนศีรษะ ตำแหน่งที่ผมบางและหลุดร่วง ใช้ปลายนิ้วนวดเบาๆ โดยไม่ต้องล้างออก ใช้วันละ 1-2 ครั้ง เช้า-เย็น ควรใช้ต่อเนื่องเพื่อประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น
ที่มา:
https://www.rama.mahidol.ac.th/atrama/issue017/beauty-full
ผศ.นพ.วาสนภ วชิรมน แผนกผิวหนังและเลเซอร์ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
https://www.samitivejhospitals.com/th/article/detail/hair-loss
Guarantee โดยลูกค้าทุกท่านที่ใช้จริง ได้ผลเป็นที่พึงพอใจ


